ทำไม ? ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตรสูง แต่ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร

ทำไม ? ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตรสูง แต่ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร

ทำไม ? ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตรสูง แต่ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร
.
ไนโตรเจน เป็นธาตุที่มีมากที่สุดในธรรมชาติ แต่เป็นธาตุที่มีจำกัดในการเจริญเติบโของพืช เนื่องจากส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของก๊าซ และที่อยู่ในดินก็จะอยู่ในรูปแบบอินทรียวัตถุ ซึ่งไนโตรเจนที่พืชสามารถดูดซึมได้นั้นจะต้องอยู่ในรูปแบบของอนินทรีย์ เช่น NO3 – แอมโมเนีย เป็นต้น เพราะฉะนันเกษตรกรจึงต้องหา ปุ๋ยยูเรียสูตรสูง เพื่อมาทดเเทนไนโตรเจนที่ไม่เพีบงพอ
.
แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตรสูง เพื่อเร่งความเขียว เช่น ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 สูตร 21-0-0 หรือปุ๋ยสูตรเสมอ แต่ในบางครั้งพืชก็ไม่เขียว ใบ ต้น ไม่แข็งแรง ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีเท่ากับประมาณของปุ๋ยที่ใส่ลงไปในดิน
.
นั่นก็เพราะว่า ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) ที่อยู่ใน ปุ๋ยยูเรีย นั้น เป็นธาตุอาหารที่สามารถระเหิด (จากของแข็งการเป็นก๊าซ) ได้ง่าย ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารจริง ๆ แค่ 30% จากปริมาณที่ให้ไปเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ปุ๋ยยูเรียที่มีสูตร คือ 46-0-0 หมายความในปุ๋ย 100 กิโลกรัม มีปริมาณไนโตรเจน 46 กิโลกรัม แต่พืชสามารถนำไปใช้ได้เพียง 30% จาก 46 กิโลกรัม ซึ่งก็คือ 13.8 กิโลกรัม เท่านั้น
.
แล้วอีก 70% ไนโตรเจนหายไปไหน ?
โดยหลัก ๆแล้ว จะมีอยู่ด้วยกัน 5 กระบวนการ ที่ทำให้เกิดการสูญเสียไนโตรเจน คือ
1. กระบวนการ Denitrification เกิดจากการที่ดินมีน้ำขังมากกเกินไปทำให้จุลินทรีย์ต้องการออกซิเจน (O2) มากขึ้น จึงไปดึงมาจากสารประกอบไนโตรเจนในปุ๋ย ทำให้ไนโตรเจนที่อยู่ในรูปของแข็งเปลี่ยนเป็นก๊าซและระเหยไปในอากาศ
2. กระบวนการ Urea hydrolysis เป็นกระบวนการของปุ๋ยยูเรียที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อปุ๋ยยูเรียถูกใส่ลงไปในดิน ปุ๋ยยูเรียจะผ่านกระบวนการเพื่อไปอยู่ในรูปแบบที่พืชสามารถดูดซึมได้ ซึ่งบางขั้นตอนของกระบวนการ ไนโตรเจนจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของก๊าซและระเหยไปในอากาศ
3. กระบวนการ Ammonia Volatilization เป็นกระบวนการของปุ๋ยแอมโมเนียที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นกัน โดยสูญเสียไนโตรเจนไปในระหว่างกระบวนการ แต่จะเกิดขึ้นได้มากในสภาวะ ที่ดินมีค่าความชื้นสูง, ค่า pH ต่ำ, ค่า CEC สูง
4. การสูญเสีย NO3 – โดยการชะล้าง NO3 – เป็นสารที่ละลายได้ดีมากในน้ำและไม่ถูกดูดซับโดย soil colloids ดังนั้นจึง ถูกชะล้างไปกับน้ำสู่ชั้นใต้ผิวดินได้ง่าย
5. การตรึงแอมโมเนีย (Ammonium Fixation) ปกติแล้วแอมโมเนียจะถูกตรึงไว้ที่ชั้นผิวของคอลลอยด์ดิน ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยน cations กับธาตุอื่น ๆ ได้แต่ถ้าแอมโมเนียถูกตึงไว้ระหว่างชั้นแร่ดินเหนียว จะทำให้แอมโมเนียไม่สามารถแลกเปลี่ยน cations กับสารละลายในดิน ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ต่อพืช
.
ดังนั้น เพื่อลดต้นทุนและทำให้ใส่ปุ๋ยนั้นเกิดประโยชน์มากที่สุด เกษตรกรควรจะต้องมีการจัดการในการลดการสูญเสียไนโตรเจนที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น
1. การให้น้ำควรให้พอดีกับความต้องการของพืชและการละลายปุ๋ยเพียงเท่านั้น และเว้นการใส่ปุ๋ยช่วงหน้าฝน
2. ไม่ใส่ปุ๋ยในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดและหลังจากใส่ปุ๋ยควรพลวนดินกลบ เพื่อลดอัตราการระเหิดของปุ๋ยได้
3. ปรับสภาพดินให้เป็นกลาง การทำให้ดินมีค่า pH เป็นกลาง ยังช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางรากได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
4. หากเป็นปุ๋ยผสม ธาตุอาหารที่นำมาผลิตเป็นปุ๋ย ต้องเป็นสารที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันการแปรรูปของไนโตรเจน ให้เกิดการระเหิดหรือระเหยได้ง่าย
5. ใช้ปุ๋ยที่มีนวัตกรรมในการเคลือบเม็ดด้วยแร่ธาตุและแคลเซียม เพื่อลดอัตราการระเหิดหรือระเหย ทำให้ปุ๋ยค่อย ๆ ปลดปล่อยไนโตรเจนให้พืชรับอย่างช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ

สนใจติดต่อสอบถาม
🎥 https://www.youtube.com/channel/UCLe3IuaPjsjwdftbXjIRVxg
💻 http://idesignorganic.com
.
☎️ : 0876208888
Line ID : @organic.design (มี@นำหน้า)

facebook : https://www.facebook.com/iDesignOrganic
หรือกดจากมือถือ https://lin.ee/83it4SI
WhatsApp : https://wa.me/+066-0905500599
Telegram : https://t.me/OrganicDesignFertilizer
.
#โรงงานปุ๋ย #โรงงานรับผลิตปุ๋ย #รับผลิตปุ๋ยราคาถูก #รับผลิตปุ๋ยน้ำ #ปุ๋ยอินทรีย์
#ปุ๋ยอินทรีย์เคมี #ปุ๋ยเคมี #ปุ๋ยน้ำ #ฮาลาล #Halal #IFOAM #ISO9001 #ISO17025
#ขึ้นทะเบียนปุ๋ยครบวงจร #ส่งออกปุ๋ย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *